พรีเมียร์ลีก 2018/19 นัดที่12
สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม
อาทิตย์ที่ 11 พฤศจิกายน 2561
กรรมการ แอนโธนี่ เทย์เลอร์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
- 1-0 ซิลบา 12′
- 2-1 มาร์กซิยาล 58′ (Pen.)
- 2-0 อเกวโร่ 48
- 3-1 กุนโดกัน 86′
พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2018-2019 เป็นการพบกันในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้แมตช์ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเหย้า เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือเจ้าถิ่น เปลี่ยนนักเตะจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ถล่มชัคตาร์ โดเนตส์ค 6-0 เพียงแค่ 2 รายเท่านั้นคือ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ กับ เซร์คิโอ อเกวโร ซึ่งได้โอกาสลงตัวจริงแทน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ และ กาเบรียล เชซุส
ด้านผู้มาเยือนของ โชเซ่ มูรินโญ ปรับทัพจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่บุกชนะยูเวนตุส 2-1 ทั้งสิ้น 2 คนเช่นกัน ได้แก่ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ มารูยาน เฟลไลนี ซึ่งได้ลงเป็น 11 คนแรกแทน อเล็กซิส ซานเชซ และจอมทัพคนสำคัญที่บาดเจ็บอย่าง ปอล ป็อกบา
ออกสตาร์ทเกมเพียงแค่ 12 นาทีเท่านั้น เป็นฝั่งของซิตี้ที่สามารถพังประตูขึ้นนำได้อย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง เปิดบอลทางกราบซ้ายลึกไปเสาไกลให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ตวัดเข้ากลางต่อให้ ดาบิด ซิลบา แต่งเข้าขวาแล้วยิงไปแฉลบแนวรับยูไนเต็ดตุงตาข่าย ส่งให้เรือใบสีฟ้าแล่นออกนำ 1-0
จากนั้นแม้ว่าเจ้าบ้านจะยังคงครองเกมบุกได้เหนือกว่า แต่ก็ยังไม่มีโอกาสจะแจ้งที่จะบวกลูกสองเพิ่มได้อีก ทำให้จบ 45 นาทีแรกยังเป็นแชมป์เก่าที่นำอยู่ 1-0
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังเพียงแค่นาทีที่ 48 ซิตี้ก็มาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ อเกวโร ทำชิ่งกับ มาห์เรซ ก่อนที่ เอล กุน จะได้หลุดไปซัดด้วยขวาเต็มแรงแสกหน้า ดาบิด เด เคอา อย่างเด็ดขาด ช่วยให้เรือใบสีฟ้าหนีห่างเป็น 2-0
เมื่อตามหลังถึงสองประตู ปีศาจแดงจึงไม่มีทางเลือกต้องแก้เกมด้วยการส่ง โรเมลู ลูกากู ซึ่งเพิ่งหายบาดเจ็บกลับมาฟิตสมบูรณ์ลงมาเป็นตัวสำรองแทน เจสซี ลินการ์ด ในนาทีที่ 57 ซึ่งก็สัมฤทธิ์ผลอย่างรวดเร็ว เมื่อมาได้จุดโทษในนาทีที่ 58 จากจังหวะที่ ลูกากู ไปโดน เอแดร์สัน พุ่งตัวมาขวางจนล้มลงไป ก่อนจะเป็น อ็องโตนี มาร์กซิยาล รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ทีมเยือนตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2
ทว่าในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 86 ตัวสำรองของเจ้าบ้านก็แผลงฤทธิ์ยิงประตูที่สามฉีกหนีไปอีก โดยเป็น อิลคาย กุนโดกัน ซึ่งลงมาแทน อเกวโร ตั้งแต่นาทีที่ 75 รับบอลในเขตโทษจากการเปิดทางกราบขวาของ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ก่อนจะจัดการซัดด้วยซ้ายจ่อๆไม่เหลือ ส่งให้แชมป์เก่านำห่าง 3-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้เอาชนะไป 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 32 แต้ม แซงลิเวอร์พูลขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูง ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่อันดับ 8 มี 20 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี้: เอแดร์ซอน – ไคล์ วอล์คเกอร์, จอห์น สโตนส์, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ – แบร์นาร์โด้ ซิลวา, แฟร์นานดินโญ่, ดาบิด ซิลบา (ฟิล โฟเด้น น.90+2) – ริยาด มาห์เรซ (เลรอย ซาเน่ น.62), เซร์คิโอ อเกวโร่ “กุน” (อิลคาย กุนโดกาน น.75), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
แมนฯยูไนเต็ด: ดาบิด เด เคอา – แอชลี่ย์ ยัง (กัปตันทีม), คริส สมอลลิ่ง, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์ – อันเดร เอร์เรร่า (อเล็กซิส ซานเชซ น.73), มารูยาน เฟลไลนี่, เนมานย่า มาติช – เจสซี่ ลินการ์ด (โรเมลู ลูกากู น.57), มาร์คัส แรชฟอร์ด (ฆวน มาต้า น.73), อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล
ผู้ตัดสิน: แอนโธนี่ เทย์เลอร์