ทีมจิ้งจอกคืนฟอร์มเทพเปิดบ้านเอาชนะเซบีย่าทีมเยือนด้วยสกอร์ 2-0 ในศึกฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่ 2 สกอร์ 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรในครั้งแรกที่เข้าร่วมรายการนี้อีกด้วย
ฟุตบอลยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกส์นัดที่ 2 คู่ระหว่างเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้วพบกับเซบีย่าแชมป์เก่ารายการยูโรป้าคัพ โดยในนัดแรกนั้นเซบีย่าเอาชนะในบ้านด้วยสกอร์ 2-1 และเกมนี้กลับมาเยือนเลสเตอร์ ซิตี้ ที่เปลี่ยนโค้ชใหม่ ในเกมนี้เลสเตอร์ ซิตี้จัดผู้เล่นชุดหลักลงสนามทุกตำแหน่ง โดยคู่กองหน้าใช้ ชินจิ โอกาซากิและเจมี่ วาร์ดี้ ลงล่าตาข่าย เลสเตอร์ได้ประตูขึ้นนำก่อนจากจังหวะเตะมุมโดย’ริยาร์ด มาร์เรซ’เปิดบอลโค้งเข้าไปและลูกบอลตกลงใส่หัวเข่าของ’เวสต์ มอร์แกน’พุ่งเข้าประตู จบครึ่งแรกเลสเตอร์นำก่อน 1-0
เริ่มต้นครึ่งหลังได้เพียง 9 นาทีเท่านั้น ริยาร์ด มาร์เรซ มิดฟิลด์ตัวเก่งของเลสเตอร์เปิดบอลเข้าไปยังกรอบประตูของเซบีย่าก่อนที่กองหลังจะสลัดบอลไปเข้าทาง ‘มาร์ค อัลไบรตัน’แต่งบอลหนึ่งจังหวะและยิงด้วยซ้ายบอลเบียดเสาแรกเข้าประตูอย่างสวยงาม เลสเตอร์ออกนำไป 2-0 จากนั้นในนาทีที่ 74 เซบีย่าต้องมาเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน เนื่องจาก ‘ซาเมียร์ นาสรี่’เอาหัวไปโขก’เจมี่ วาร์ดี้’ทำให้โดนใบเหลืองไปฝั่งละใบและเป็นใบเหลือที่ 2 ของนาสรี่
ต่อมานาทีที่ 80 เซบีย่ามีโอกาสตีไข่แตกจากจังหวะจุดโทษโดย’สเตฟาน เอ็นซงซี่’รับหน้าที่สังหารแต่ยิงไปติดเซฟของ’แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล’ ซึ่งชไมเคิ่ลเซฟจุดโทษของเซบีย่าได้ทั้ง 2 นัดที่พบกันอีกด้วย จบเกมเลสเตอร์ ซิตี้เอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-0 รวมสองนัด 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรกของทีมและครั้งแรกที่เข้ามาเล่นรายการนี้อีกด้วย
